จุลินทรีย์ชีวภาพสำหรับการเกษตร
จุลินทรีย์ชีวภาพที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต ทำให้ได้จุลินทรีย์คัดสายพันธุ์พิเศษที่ให้ประโยชน์สูงสุดสำหรับพืช และนำไปหมักได้โดยไม่ต้องกากน้ำตาล ทำให้ได้น้ำหมักสีสันตามวัสดุที่ใช้ นำไปใช้เป็นประโยชน์ต่อพืชไร่ พืชผัก ไม้ผล ไม้ดอกไม้ประดับ และช่วยย่อยสลายอินทรีย์วัตถุให้กลายเป็นธาตุอาหารสำหรับพืช ช่วยลดและควบคุมปริมาณเชื้อสาเหตุโรคพืชในดิน ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มจุลินทรีย์พวกเชื้อราที่มีเส้นใย (Filamentous fungi) ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งการย่อยสลาย สามารถทำงานได้ดีในสภาพที่มีออกซิเจน มีคุณสมบัติต้านทานความร้อนได้ดี
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มจุลินทรีย์พวกสังเคราะห์แสง (Photosynthetic microorganisms) ทำหน้าที่สังเคราะห์สารอินทรีย์ให้แก่ดิน เช่น ไนโตรเจน (N2) กรดอะมิโน (Amino acids) น้ำตาล (Sugar) วิตามิน (Vitamins) ออร์โมน (Hormones) และอื่นๆ เพื่อสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ดิน
กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ในการหมัก (Zynogumic or Fermented microorganisms) ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้ดินต้านทานโรค (Diseases resistant) ฯลฯ เข้าสู่วงจรการย่อยสลายได้ดีช่วยลดการ พังทลายของดิน ป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชบางชนิด
กลุ่มที่ 4 เป็นกลุ่มจุลินทรีย์พวกตรึงไนโตรเจน (Nitrogen fixing microorganisms) มีทั้งพวกที่เป็นสาหร่าย (Algae) และพวกแบคทีเรีย (Bacteria) ทำหน้าที่ตรึงก๊าซไนโตรเจนจากอากาศเพื่อให้ดินผลิตสารที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต เช่น โปรตีน (Protein) กรดอินทรีย์ (Organic acids) กรดไขมัน (Fatty acids) แป้ง (Starch or Carbohydrates) ฮอร์โมน(Hormones) วิตามิน(Vitamins) ฯลฯ
กลุ่มที่ 5 เป็นกลุ่มจุลินทรีย์พวกสร้างกรดแลคติก (Lactic acids) มีประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อรา และแบคทีเรียที่เป็นโทษ ส่วนใหญ่เป็นจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการอากาศหายใจ ทำหน้าที่เปลี่ยนสภาพดินเน่าเปื่อย หรือดินก่อโรคให้เป็นดินที่ต้านทานโรค ช่วยลดจำนวนจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของโรคพืชที่มีจำนวนนับแสน หรือให้หมดไป นอกจากนี้ยังช่วยย่อยสลายเปลือกเมล็ดพันธุ์พืช ช่วยให้เมล็ดงอกได้ดีและแข็งแรงกว่าปกติอีกด้วย
ประโยชน์จากBio100
- ราดลงดินจะปรับสภาพดินให้ร่วนซุยดินอุ้มน้ำได้ดีขึ้น และได้ธาตุไนโตรเจนที่รากพืชดูดไปใช้ได้โดยตรง
- ส่งเสริมการเจริญของพืช โดยมีฮอร์โมนและกรดอินทรีย์ หลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อพืช
- กระตุ้นการงอกของเมล็ด โดยใช้แช่เมล็ดพันธุ์ก่อนการเพาะปลูก 12 ชม. เพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์ความงอก
- ใช้ในช่วงออกดอกผล ช่วยให้ตาดอกแข็งแรง เพิ่มความหวานให้กับผล และผลผลิตมีขนาดใหญ่ รวมทั้งผลผลิตสูงขึ้น ติดทนนาน
- ใช้ในช่วงเริ่มงอก ช่วยให้รากพืชแข็งแรง พืชเจริญเติบโตเร็ว
- ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในโรคพืช
- ช่วยลดและควบคุมปริมาณเชื้อสาเหตุโรคพืชในดิน
- ช่วยลดการใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงทำให้ลดค่าใช้จ่าย
- เพิ่มปริมาณธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ได้แก่ ธาตุอาหารหลัก,อาหารรอง,อาหารเสริม
วิธีการใช้
ใช้ปลดปล่อยธาตุอาหารในดินและย่อยสลายอินทรีย์วัตถุ
ใช้ 1 ซอง ต่อน้ำ 50 ลิตร ทิ้งไว้ 24-36 ชั่วโมง สามารถใช้ได้ประมาณ 1 ไร่ใช้ฉีดพ่นไปที่ดินโดยตรง ทุก 15 หรือ 30 วัน
ใช้ในการทำปุ๋ยหมัก
ใช้ 1 ซอง ต่อน้ำ 50 ลิตร ทิ้งไว้ 24-36 ชั่วโมงนำไปราดราดบนกองปุ๋ยหมักน้ำหนักไม่เกิน 2 ตันให้ทั่วทั้งกองทำการคลุกเคล้าให้ทั่ว ให้มีความชื้นประมาณ 30-50 % ถ้าไม่ชื้นสามารถราดน้ำเพิ่มได้หาวัสดุปิดคลุมกองปุ๋ยคอกเพื่อรักษาอุณหภูมิและความชื้น ควรกลับกองทุก 7-15 วัน (ถ้ากองปุ๋ยแห้งเกินไปสามารถใช้น้ำราดเพื่อเพิ่มความชื้นได้) ใช้เวลา 40-50 วัน ปุ๋ยหมักที่ย่อยสลายสมบูรณ์แล้วและสามารถนาไปใช้ได้ จะมีสีน้าตาลปนดา , ยุ่ยละเอียด ไม่มีกลิ่นเหม็น และความร้อนภายในกองปุ๋ยหมักลดลง
ใช้ในการทำน้ำหมัก
ใช้ 1 ซอง ต่อน้ำ 50 ลิตร ทิ้งไว้ 24-36 ชั่วโมง นำน้ำที่ได้ 10 ลิตร ไปผสมกับอินทรีย์วัตถุ(พืชผักสดและผลไม้สด) 30 กก. ในถังขนาดความจุ 100 ลิตร คนให้เข้ากันและเติมน้ำจนเกือบเต็มความจุ ใช้เวลา 15-30 วัน
แนะนำจุลินทรีย์คุณภาพ Bio100-Basic